ภายหลังที่ มูลนิธิก้าวคนละก้าว โดย ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้แสลม ได้ออกมาประกาศโครงงาน ก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน “๑๐๙ คำร้องขอบบุญคุณ”
โดยการวิ่งการกุศลครั้งนี้ ถือเป็นการสานต่อกิจกรรมวิ่ง ดูหนังออนไลน์ 4k ก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน ในปี 2563 ซึ่งรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย ถูกนำไปใช้สนับสนุนน้องๆ ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ยังไม่มีทุนไปต่อ ม.ปลาย หรือสายอาชีพ ได้ทั้งหมด 109 คน
ในวันนี้น้องๆ ทั้ง 109 คน ขอส่งคำขอบพระคุณกลับมาให้ พี่ๆ คนไทยใจดีทุกๆ คน ที่ช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสทางการศึกษา ได้มีโอกาสที่จะฝัน และเป็นในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้อีกครั้ง
เราจึงมีแนวคิดในการนำตัวเลข 109 ตามจำนวนของน้องๆ มาตั้งเป็นระยะทางวิ่งของเวอร์ชวลรันครั้งนี้ โดยกำหนดให้มีระยะทางวิ่งทั้งหมด 109 กิโลเมตร เริ่มวิ่งสะสมระยะทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 รวมระยะเวลา 59 วัน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการของก้าวคนละก้าวในครั้งนี้ กลับมีกระแสตอบรับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง โดยมีบางส่วนที่เห็นด้วย และสนับสนุนกิจกรรมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ในขณะที่บางส่วนกลับมองว่า กิจกรรมวิ่งเพื่อหาเงินช่วยเหลือสังคมของ ตูน บอดี้แสลม ที่ทำมาตลอดหลายปีนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และไม่เคยแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้เลย หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบปัญหาเหล่านี้โดยตรง ก็ไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าพี่ตูนจะออกมาวิ่งอีกกี่ครั้ง ปัญหาความยากไร้ ขาดแคลน ดูหนังออนไลน์ ชัด ก็คงไม่มีวันหมดไป
โดยคอมเมนต์สุดพีค อยู่ตามเพจข่าวต่างๆ หลังจากนำเสนอข่าวกิจกรรมนี้ อาทิเช่นในเพจ EFM station ที่มี “อิสระ ฮาตะ” อดีตทีมงานรายการชื่อดัง และเป็นลูกชายของ “ประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ” นักสิทธิมนุษยชนและผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ได้เข้าไปคอมเมนต์ยื่นข้อเสนอสุดพีค ระบุว่า
“ถ้าวิ่ง 250 กิโลเพื่อขอเงินเดือนทั้งหมดจาก ส.ว. 250 คน เอามาเป็นทุนการศึกษาให้น้องๆที่ด้อยโอกาส ผมจะไปวิ่งด้วยครับ”
เช่นเดียวกับชาวเน็ตอีกท่านที่เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมความตั้งใจของตูน และมูลนิธิก้าว แต่อยากให้มองไปที่ปัญหาเชิงโครงสร้าง ระบุว่า
“ความตั้งใจดีแล้วครับพี่ตูน ดูหนังออนไลน์ hd ฟรี แต่มันเป็นหน้าที่รัฐบาลครับ เด็กยากไร้ไม่ได้มีแค่ 109 คนครับ ทั้งประเทศมีอีกเยอะแยะเลย สิ่งที่พี่น่าจะทำได้ดีกว่าวิ่งหาเงินคือการให้ความรู้กับประชาชน ว่ารัฐบาลที่ดีควรเป็นยังไง ผ่านแพลตฟอร์มที่มีคนฟอลขนาดนั้น ในบางประเทศเด็กได้เรียนฟรีจนจบปริญญาทุกคนแบบไม่เสียสักบาท ไม่เห็นต้องมีคนวิ่งเพื่อหาเงินบริจาคให้การศึกษาหรือซื้ออุปกรณ์การแพทย์เลยครับ”
ขณะที่อีกคอมเมนต์ก็บอกว่า
“การให้ทานเป็นเรื่องดีขอรับ แต่ว่ามันไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างปกติแบบงี้ รัฐบาลที่ปลดปล่อยให้มันกำเนิด เป็นความบกพร่อง ส่วนผู้ที่มารณรงค์ให้มีการบริจาค เป็นการร่วมแรงกับรัฐบาลที่บกพร่อง (รับบริจาคได้แต่ว่าช่วยแสดงออกถึงข้อผิดพลาดของรัฐบาลด้วยไม่ใช่รับบริจาคแล้วทำเสมือนเกิดเรื่องที่ดีน่าทำขนาดนั้น)”
